คำถาม ... จะซื้อหมวกกันน็อค ต้องดูอะไรบ้าง?
เฉลย ...
หมวกกันน็อคเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคน (รวมไปถึงนักขี่จักรยาน นักปีนเขา นักแข่งรถ และอื่น ๆ) เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และลดความรุนแรงและอาการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา และผ่อนเบาให้เป็นไม่เจ็บอะไรเลย
หมวกกันน็อคนั้นมีให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายราคา หลายดีไซน์ ตามความต้องการและปริมาณเงินในกระเป๋า วันนี้เราจะมาดูกันว่า เมื่อจะซื้อหมวกกันน็อคมาใช้สักใบ เราต้องพิจารณาอะไรกันบ้าง
1. มาตรฐานความปลอดภัย
ในเมื่อหมวกกันน็อคถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งแต่ละประเทศจะมีมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับหมวกกันน็อคที่แตกต่างกันออกไป สำหรับประเทศไทยของเราจะใช้มาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. เป็นหลัก ดังนั้นเราต้องเลือกหมวกกันน็อคที่ได้รับเครื่องหมาย มอก. เท่านั้น อย่าใช้หมวกแก็ป หมวกงอบ หรือ หมวกไหนพรมแทนหมวกกันน็อคเด็ดขาด
2. ความพอดีกับศรีษะ
หมวกกันน็อคที่ดีนั้น นอกจากต้องมีเครื่องหมาย มอก. แล้ว ยังต้องสวมแล้วสบาย ขนาดพอดีกับศรีษะ ห้ามซื้อหมวกแบบเผื่อโตแบบชุดนักเรียน เพราะหัวเราไม่ได้โตเร็วเท่าพุง หรือยาวเร็วเท่าแขนขาของเด็ก การสวมหมวกที่แน่นเกินไปจะทำให้ปวดศรีษะและเจ็บหู ในขณะที่หมวกที่หลวมเกินไปมันจะไม่กระชับกับศรีษะ เวลาเกิดอุบัติเหตุก็อาจจะกระเด็นหลุด หรือไม่สามารถปกป้องศรีษะจากอาการบาดเจ็บได้ ดังนั้นต้องลองสวมหมวกกันน็อคใบที่ต้องการซื้อก่อนเสมอ
3. ซื้อหมวกกันน็อคให้ถูกประเภท
หมวกกันน็อคมีหลายประเภทและถูกออกแบบมาสำหรับงานเฉพาะอย่าง เช่น การขี่มอเตอร์ไซค์ จักรยาน เล่นสกี อเมริกันฟุตบอล มอเตอร์ไซค์วิบาก หรือกีฬาอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หมวกกันน็อคมอเตอร์ไซค์อาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น กระบังหน้าสำหรับกันลมหรือสายรัดคางเพื่อเพิ่มการป้องกันและกันหมวกหลุด ในขณะที่หมวกกันน็อคจักรยานนั้นจะให้ความสำคัญกับการระบายอากาศและการมีน้ำหนักเบา เป็นต้น เราต้องเลือกหมวกกันน็อคที่ออกแบบมาสำหรับงานที่เราต้องการเท่านั้น ห้ามมั่วนิ่ม ไม่ใช่ว่าไปเจอหมวกกู้ภัยหรือหมวกเซฟตี้ราคาถูกกว่าก็คว้าทันที ห้ามเด็ดขาด
สำหรับผู้ที่ต้องใช้หมวกกันน็อคเป็นเวลานาน ในที่ที่มีฝุ่นควัน หรือในเวลากลางคืนที่มีแลงมาก ควรเลือกหมวกหมวกแบบเต็มใบ หรือหมวกที่มีแผ่นกันลมด้านหน้า หรือมี Visor/Shield และควรเลือกชนิดที่ใส มองเห็นได้ชัด และป้องกันการขีดข่วนได้
4. วัสดุที่ใช้ผลิต
หมวกกันน็อคสามารถผลิตได้จากวัสดุหลายประเภท เช่น Acrylonitrile Butadiene Styrene (ABS), Shock Resistant Thermoplastic (SRT), Shock Resistant Plastics (SRP) และ Carbon Fiber ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีความทนทาน ความสามารถในการดูดซับแรงกระแทก ความเบาความหนักแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนซื้อต้องถามผู้ขายว่าหมวกใบนั้นทำมาจากอะไร ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง อายุใช้งานกี่ปี (โดยทั่วไปหมวกกันน็อคจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี) ถ้าคนขายบอกว่าใช้ได้ยันลูกบวชและส่งต่อเป็นมรดกได้ ให้รีบเดินหนีทันที หมอนี่ขี้จุ๊แล้วละหรือไม่ก็กำลังร้อนเงิน
5. การระบายอากาศ
สำหรับผู้ที่ต้องใช้หมวกกันน็อคเป็นเวลานานนั้นการระบายอากาศเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเลือกหมวกที่ระบายอากาศได้ดี วัสดุภายในซับเหงื่อได้ รวมถึงควรระบายความร้อนได้ดีด้วย ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสุกพอดีกินก่อนจะถึงจุดหมายได้
6. ราคา
เชื่อว่าหลายคนมองป้ายราคาก่อนอย่างอื่น (เราก็ด้วย 5555+) หมวกกันน็อคมีหลากหลายราคามาก มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท บางรุ่นบางยี่ห้อราคาหลักหมื่นก็ยังมี ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตทั้งภายนอกและภายใน เป็นแบบครึ่งใบหรือเต็มใบ มี Visor/Shield หรือไม่ มีหูแมวการ์ฟิวหรือไม่ มีลายโดราเอมอน ฮัลโหลคิตตี้ หรือมีลายเซเลอร์มูนหรือเปล่า รวมไปถึงยี่ห้อด้วย เลือกได้ตามสะดวกและตามความหนักของกระเป๋า ... แต่ต้องไม่ลืมว่า หมวกกันน็อคใบนั้นต้องมีเครื่องหมาย มอก. เป็นมาตรฐานขั้นต่ำเสมอ
จาก 6 ข้อด้านบน เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจะสามารถเลือกซื้อหมวกกันน็อคที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างถูกต้องและมีความปลอดภัยในการใช้งาน แต่สิ่งที่นอกเหนือไปจากการมีหมวกกันน็อคที่ดีแล้ว ต้องนำมาใช้อย่างจริงจังด้วย หมวกกันน็อคไม่ใช่ของประดับบ้าน ไม่เครื่องลางที่ต้องแขวนไว้บนหิ้ง ที่อยู่ของมันคือบนหัวของเรา ดังนั้นเมื่อหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์เราต้องหยิบหมวกกันน็อคด้วยเสมอ
นอกจากการใช้หมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยแล้ว วินัยในการใช้รถใช้ถนนก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าขับรถเร็วเกินไป ไม่ขับซิ่งหรือขับหวาดเสียวจนคนอื่นต้องอัญเชิญบรรพบุรุษของเรามาชื่นชม และที่สำคัญคือเมาไม่ขับ ... ไม่เช่นนั้น หมวกกันน็อคลายซุปเปอร์แมนก็ช่วยอะไรเราไม่ได้
