คำถาม ... เครดิตบูโร คืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง
เฉลย ...
เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือ หน่วยงานหรือบริษัทที่เก็บข้อมูลประชาชนที่มีประวัติการมีสินเชื่อ การชำระสินเชื่อ หรือบัตรเครดิตประเภทต่าง ๆ จากธนาคารและสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ
สินเชื่อที่ธนาคารและสถาบันการเงินต้องส่งข้อมูลให้กับเครดิตบูโร ได้แก่ สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่ออเนกประสงค์ประเภทต่าง ๆ โดยข้อมูลที่จัดส่งนั้นจะเป็นประวัติการชำระสินเชื่อ ซึ่งบรรดาธนาคารและสถาบันการเงินจะต้องส่งให้เครดิตบูโรทุกเดือน
เครดิตบูโร ... สถานที่จัดเก็บประวัติการชำระสินเชื่อ |
เครดิตบูโร (Credit Bureau) มีหน้าที่อะไรบ้าง?
เครดิตบูโร หรือบริษัทข้อมูลเครดิต เป็นบริษัทหรือหน่วยงานมีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลการชำระสินเชื่อชนิดต่าง ๆ ที่ธนาคารและสถาบันการเงินปล่อยกูให้กับประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยที่ธนาคารและสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกจะต้องส่งประวัติการชำระของลูกหนี้มาเก็บไว้ที่นี่ทุกเดือน และเมื่อมีลูกค้ามาขอสินเชื่อ ธนาคารและสถาบันการเงินเหล่านี้สามารถขอเรียกดูประวัติการชำระเงินของลูกค้ารายนั้นได้ (ภายใต้การยินยอมของลูกค้า) โดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะเก็บประวัติการชำระเงินไว้ในระบบเป็นเวลา 36 เดือย หรือ 3 ปี
เมื่อมีการผิดนัดชำระ ไม่ว่าจะผิดนัดชำระชั่วคราวหรือนานจนเป็นเป็นหนี้เสียก็ตาม ข้อมูลของเราจะแสดงผลเป็นเวลา 36 เดือน ดังนั้นจึงหมายความว่า ถ้าเราเคยผิดนัดชำระมาก่อน แต่ปัจจุบันกลับมาชำระได้ตามปกติแล้ว ประวัติการผิดนัดชำระของเราก็จะยังแสดงในรายงานไปอีก 36 เดือน ดังนั้นการขอสินเชื่อในระยะนี้จะเป็นไปได้ยาก
ข้อมูลในเครดิตบูโรนั้นมีประโยชน์มากต่อสถาบันการเงินหรือธนาคารที่จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า เนื่องจากข้อมูลจากเครดิตบูโรนั้นจะแสดงประวัติการชำระเงินสินเชื่อทุกชนิดของลูกค้ารายนั้น ๆ ดังนั้นธนาคารหรือสถาบันการเงินสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการพิจารณาว่าประวัติการชำระเงินของลูกค้ารายนี้เป็นเช่นไร มียอดค้างชำระกับที่ไหนหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อพิจารณายอดสินเชื่อที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้ามีประวัติการชำระเงินไม่ดี มียอดค้างชำระเกินกำหนด หรือกำลังเป็นหนี้เสียของสถาบันการเงินอื่นอยู่ ธนาคารก็อาจจะปฏิเสธการขอสินเชื่อของลูกค้าได้
ดังนั้นก่อนที่เราจะขอสินเชื่อใด ๆ จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้จริงหรือไม่ มีเงินออมหรือเงินสำรองฉุกเฉินบ้างหรือไม่ เพราะการขอสินเชื่อในขณะที่เราไม่พร้อม อาจจะนำไปสู่การผิดชำระหนี้ และข้อมูลการผิดชำระหนี้จะปรากฏในเครดิตบูโรไปอีก 3 ปี ทำให้ระยะ 3 ปีนับจากวันผิดชำระหนี้ การทำธุรกรรมทางการเงินหรือการขอสินเชื่ออื่น ๆ จะเป็นไปได้ยากมาก